6/26/2552 04:20:00 หลังเที่ยง

ทดสอบ

เขียนโดย VARAVEE |

มอออออ

10/18/2551 08:41:00 หลังเที่ยง

โอกาสในการศึกษา Fair & Unfair

เขียนโดย VARAVEE |

มีหลายคนถามผม และเป็นห่วงผม ผมขอบคุณทุกทุกท่านจากใจจริงเลยนะครับ

บางคนอาจไม่เข้าใจ ว่าทำไมหนา

มีคำบางคำที่ผมเคยได้ยิน เด็กพูด และทำให้ผมสะอึก

"""""
ผมทราบครับว่าโลกนี้น่ะ Unfair


แต่สิ่งที่อยากให้โลกนี้มีความยุติธรรมเหลืออยู่บ้างก็คือ

โอกาสในการศึกษา ถ้าผมไม่มีเงิน ผมคงไม่มีอนาคต ดีดี กับเขาแล้วใช่ไหม""""""""

===================================================
หลายคนที่อ่านบทความของผม จริงๆแล้วเป็นผู้มีโอกาสทั้งนั้น

สำหรับตัวผมแล้ว ผมก็คงไม่มีโอกาส เป็นครู ให้เด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาล ได้ หรอก

เพราะ คงไม่มีใครให้ผมสอน แม้ผมจะชอบ (เพราะหน้าตาที่น่ากลัว มากกกกกก)

มันคงมีคำถาม เยอะแยะไปหมด ว่าทำไมมาสมัครเป็นครู

และถ้าถามว่า แล้วไปเป็น ครูแบบนั้น ผมจะสนุกไหม

ผมว่าผมไม่สนุก ผมทำเพราะความรัก รักใน เด็ก และ รักในวิชา คณิตศาสตร์

===================================

หลังจากที่คำแนะนำเต็มมาไปหมด ทั้งจากเพื่อนตัวดีของผม และแม่แม่หลาย คนมากมากที่ห่วงผม อย่างจริงใจ

2 วันก่อน ผมนั่ง หยิบปากกา ขึ้นมา เพื่อเขียน Map ว่า ผมจะทำไงต่อ

หลังจากเขียน Main Idea ต่อ Branch แรก ความคิดแรกที่ผ่าน เข้ามาในหัว

ทำให้ผมต้องวางปากกาลง


เพราะ วันหนึ่งที่ริมแม่น้ำป่าสัก

ผมคุยกับ คน คนหนึ่ง เรื่องตกปลา

ผมก็พยายามหา เนื่อเรื่อง ที่ เธอ พยายามบอกผม โดยสรุป และผมก็หาเนื้อเรื่องมาว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้ เป็นยังไง

เพราะผมประทับใจเรื่องที่ เธอเล่ามาในเรื่องนี้มาก

จริงๆแล้วเธอเล่ากระท่อนกระแท่น เพราะลักษณะของเธอ ซึ่งน่าจะเก่งคณิตศาสตร์ ซึ่งคนลักษณะนี้ มักจะเป็น ผู้เล่าที่ไม่ค่อยดีนัด แต่ ผมจับอารมณ์ของเธอที่พยายามสื่อให้ผมฟังได้

เนื้อเรื่องเป็นดังนี้นะครับ

""""""มีนักธุรกิจเศรษฐีคนหนึ่ง ทำงานมานานนนนมากจนรวยเป็นหลายร้อยหลายพันล้าน


วันหนึ่งเขาก็ได้ขายธุรกิจของตนเอง ทันทีที่ขายเสร็จ ก็สั่งให้ขนขับรถรีบพาไปชายทะเล


พอไปถึงเขาก็เอาเก้าอี้ตั้ง นั่งตกปลาอย่างสบายอารมณ์ ลมพัดเย้นเย็น เศรษฐีรุ้สึกมีความสุขม้ากมาก ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นลุงคนนึงกำลังนั่งตกปลาอยู่เหมือนกัน


เขาจึงเอ่ยถามว่า "ลุงนั่งตกปลามานานยัง?"

"นานแล้ว"ลุงตอบ

"ลุงเป็นคนแถวนี้เหรอ" "ใช่ๆ"

"แถวนี้มีปลาเยอะมั้ยลุง"

"โอ่ย..เยอะมาก"

"แล้วลุงตกได้วันละกี่ตัวเนี่ย?"

"ตัวเดียวก็พอแล้ว"

"อ่าวลุง ปลามีเยอะแยะทำไมตกเอาแค่ตัวเดียว?"

"อ่าวก็ข้าอยู่กันสามคน พ่อแม่ลูก ปลาตัวเดียวก็อยู่ได้แล้ว"

"แล้วเวลาที่เหลือล่ะท่านทำอะไร"นักเศรษฐศาสตร์ถามต่อ

"ข้าก็อยูกับลูกกับเมีย ตอนเย็นก็ไปเดินเล่นในหมู่บ้าน เล่นดนตรี ร้องรำทำเพลงสังสรรกับเพื่อนฝูงแล้วก็กลับบ้านนอน ชีวิตก็เป็นอยู่อย่างนี้"ชาวประมงตอบ

"อ่าว ทำไมลุงไม่ตกวันเดียวสิบตัว แล้วสิบวันค่อยมาที่นี่ครั้งนึง"

ลุงก็มองแล้วงงๆนะ คิดได้ไงเนี่ย

เป็นนักธุรกิจก็ต้องชอบคิดวางแผนนั่นแหละ เหอะๆๆ

"ลุง ถ้าเป็นผมนะ ผมจะตกทีละเยอะๆเลย"

ลุงถามว่า"อ่าว ตกไปเยอะๆเอาไปทำอะไร"

"ก็เอาไปขายสิลุง! ให้ได้เงินมาเยอะๆ แล้วก็ไปซื้อเรือมาลำนึง

ไปตกที่ปลาเยอะๆกว่านี้อีก เอาปลาเยอะๆนั้นแหละไปขายให้แพปลา พอได้เงินมาแล้วก็มีเงินเหลือ"

ลุงถามต่อ "มีเงินเหลือแล้วเอาไปทำอะไรหละ"

นักธุรกิจรีบตอบ "ปัดโถ่เอ้ย ก็เอาไปซื้อเรือลำใหญ่กว่าสิ ทีนี้ก็ไปให้ไกลอีกหน่อยนึง สามวัน ห้าวัน เจ็ดวัน เอาเข้ามาขาย"

"ตอนนี้คุณก็จะมีเงินแสนแล้วนะ"

ชาวบ้านตาโตละ ตอนแรกกูยังไม่มีอะไร

ตอนนี้มีเงินแสนละ๕๕๕ เศรษฐียังเล่าต่อไป..

"พอคุณมีเงินแสนแล้วนะ คุณก็ซื้อเรือลำใหญ่กว่าเดิมอีก

เอาที่มีห้องเย็นข้างใน ไว้เก็บปลาได้นานเป็นเดือนเลย

แล้วคุณได้ปลาเยอะๆนะ ไม่ต้องไปขายให้แพปลาละ

คุณเปิดแพปลาแล้วขายกันเอง รับซื้อปลามาขายได้อีก"

เห็นมั้ย เริ่มควบรวมกิจการชาวบ้านละ

ทีนี้ทำไงต่อ อ่าวทีนี้คุณขายปลาได้เยอะๆงี้ก็มีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน คุณก็เข้าตลาดหุ้นดิ"

เข้าตลาดหุ้น แล้วพอราคาหุ้นคุณขึ้นเอา ขึ้นเอา

คุณก็ไปซื้อกิจการอื่นๆอีกซิ แล้วควบรวมกิจการทางทะเลทั้งหมดเลยนะ"

"ทีนี้แหละคุณก็มีแสนล้าน รวยมหารวย"

เศรษฐียิ้มอย่างพอใจ ลุงก็ถามต่อไปอีก "อ่าวมีแสนล้านแล้วทำไงอะ?"

"อ่าว คุณก็ขายธุรกิจเหมือนผมไง!" ๕๕๕๕๕๕๕๕๕

ชาวบ้านถาม "คุณรวยเป็นแสนล้านแล้วมานั่งตกปลากะผมหาพระแสงอะไรไม่ทราบ"

"อ้าว ก็พอมีธุรกิจแสนล้าน ก็ขายทิ้ง แล้วท่านก็ย้ายกลับมาที่หมู่บ้าน หาซื้อบ้านริมทะเล ใช้ชีวิตสงบๆกับลูกเมีย แล้วมานั่งตกปลากันสบายใจเฉิบ ....เพื่อจะได้มีความสุขกันไง...."

ชาวบ้านบอก "ผมไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นเลย" "ผมก็มีความสุขอยู่แล้วนี่ไงทุกๆวัน"


=================================

ผมวางปากกาลง แล้วนั่งนึกถึงเรื่องที่เธอเล่า ให้ผมฟัง



================

หลังจากวันที่แม่น้ำป่าสัก

ผมนั่งคิด ผมไม่เห็น ไม่จำเป็นต้องมีอะไรเลย

ถ้าผม อยู่ในสภาพ ที่หน้าตา น่ากลัว(ใครเห็นผม ที่ออกมาจากป่าวันแรกก็คงกลัวละนะ 5555) ไม่ต้องมี First Image เพื่อสร้างอะไรให้คนเห็น

คนไม่ต้องรู้จักผม ว่าผมคือใคร มีสภาพเพียงกางเกง ยีนส์ เสื้อยืด เก่าๆ เหมือน วันที่ผมนั่งริมแม่น้ำป่าสัก

ทำอย่างเดียว ทำเพื่อ สร้าง ทำเพื่อแก้กรรม ทำไป



วันก่อนคุยกับแม่คนหนึ่ง ที่สวนรถไฟ ว่าต่อไปจะเป็นไง

ผมก็บอกว่า ถ้าเหลือ น้องมา เพียงคนเดียว ผมก็ยังมา

ถ้าน้องยังต้องการให้ผมสอน ผมก็จะมาสอนน้อง
ลองดูกันว่าใครจะทนกว่าใคร

==================================


แผนการณ์ที่ไม่ถูกกำหนด แม้จะเรียนมามากมาย ว่าทำอะไรต้องวางแผน


แผนการณ์ ประเมินผล ที่ไม่มี แม้จะเรียนมามากมาย ว่า จะประเมินผลอย่างไร


จับมันทิ้งไปหมด


ก็ขอขอบคุณแรงใจ ทุกท่าน โดยเฉพาะเรื่อง นักเล่นหุ้นตกปลา ที่ริมแม่น้ำป่าสักในวันนั้น

มีคำคำหนึ่งที่ผมจำได้ในคำที่หลวงตาบอก

"""""อย่าไปฝืน ถ้าอะไรมันจะเกิดให้มันเกิด แต่อย่าไปทำ ให้มันเกิด แต่อย่าไปฝืนมัน ถ้าไม่อยากได้ก้ให้รู้แค่ ว่า มีลาภเสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ ก็พอ แต่อย่าไปฝืน อย่าไปฝืนความหวังดีของใครอีก เพราะเมื่อไร เขาหวังดี แล้วเราฝืน มันเป็นกรรม มันติดตัวเรา.................
แล้วทางออกแต่ละทางมันจะมาเอง มันจะมาเอง ตาม ธรรมะ

มีหน้าที่ก็ทำไป ทำให้ดีที่สุด """""

ขอขอบคุณ ทุกท่านที่เป็นห่วง

ขอขอบคุณ ในความกรุณา จากหลายๆท่าน

ถ้าอะไรจะเกิด คงให้มันเกิด ตามธรรมชาติ ซึ่งก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นธรรมชาติแบบไหน

======================================================
















10/14/2551 07:52:00 หลังเที่ยง

CAN... I Can Do All things ...พ่อ ครับ .........

เขียนโดย VARAVEE |

CAN... I Can Do All things ... for You .....
พ่อ ครับ ......ผมรักพ่อ.....

True Story ...

A son says to his father: 'Dad, would you be willingly to run a marathon with me?'


The father, despite his age and a heart disease, says 'YES'.


And they run that marathon, together.



The son asks: 'Dad, can you run another marathon with me?' Again father says 'YES'.



They run another marathon, together.

One day the son asks his father: 'Dad, would please do the Iron Man with me?'


Now just in case you wouldn't know, 'The Iron Man' is the toughest triatlon in existance; 4km swimming, then 180 km by bike, and finaly another 42 km running, in one stroke.


Again father says 'YES'


Maybe this doesn't 'touch' you yet by heart ... until you see this movie (put on sound!):

เรื่องจริง ...

วันนึงลูกชายได้พูดกับพ่อของเขาว่า "พ่อครับ พ่อจะไปวิ่งมาราธอนกับผมได้ไหม"

ถึงแม้ว่าตัวคุณพ่อเองจะอายุมากแล้ว แถมยังเป็นโรคหัวใจ เขาเลือกที่จะตอบลูกของเขากลับไปว่า "ได้ซิลูก"

หลังจากนั้นทั้งสองก็วิ่งมาราธอนด้วยกันอีกวันนึง ลูกชายได้ถามพ่อของเขาอีกครั้งว่า "พ่อครับ พ่อจะวิ่งมาราธอนกับผมอีกครั้งได้ไหม"

แน่นอนว่า

พ่อตอบกลับไปว่า "ได้ซิลูก" เขาทั้งสองก็ได้วิ่งมาราธอนรายการอื่นอีกครั้งด้วยกัน

และอีกวันนึง ลูกชายก็ถามพ่อของเขาอีกครั้งว่า "พ่อครับพ่อจะลงแข่ง Iron Man กับผมได้ไหม"

(สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า Iron Man คืออะไร มันก็คือไตรกีฬานั่นเองในภาษาไทย รายการนี้จะรวมมนุษย์เหล็กจากทั่วโลกมาแข่งขันกันโดยแบ่งออกเป็น ว่ายน้ำ 4 กิโล ปั่นจักรยาน 180 กิโล และ วิ่ง 42 กิโล โดยไม่มีการหยุดพัก ใครเข้าเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะ) และก็อีกครั้งหนึ่งที่ผู้เป็นพ่อไม่ได้ตอบปฏิเสธ "ได้ซิลูก"
บางทีบทสนทนานี้คุณอาจจะยังไม่เข้าใจ และยังไม่เกิดความประทับใจกับมัน...จนกระทั่งคุณได้ดูคลิปต่อไปนี้



และ ขอบอกก่อนว่า ....

ไม่ว่าคุณคิดว่าคุณจะใจแข็งเพียงไร

....... กรุณา เตรียมผ้าเช็ดหน้า ไว้เลย ครับ ......










Who taught the sun where to stand in the morning

Who told the ocean you an only come this far?

Who showed the moon where to hide 'til evening

Whose words alone can catch a falling star?

Well I know my Redeemer lives

I know my Redeemer lives

All of creation testify

This life within me cries

I know my Redeemer lives

The very same God that spins things in orbit

He runs to the weary, the worn and the weak

And the same gentle hands that hold me when I'm broken

They conquered death to bring me victory

Now I know my Redeemer lives

I know my Redeemer lives

Let all creation testify

Let this life wihtin me cry

I know my Redeemer, He lives

To take away my shame And He lives forever I'll proclaim

That the payment for my sin

Was the precious life He gave

But now He's alive And there's an empty grave.

And I know my Redeemer,

He lives I know my Redeemer lives

Let all creation testify

This life within me cries

I know my Redeemer lives


10/08/2551 01:22:00 หลังเที่ยง

ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ

เขียนโดย VARAVEE |

ไม่ร้ว่าใครนะครับ แต่ ขอบคุณมากครับ สำหรับกำลังใจ

ชอบมากมากครับเพลงนี้ มาฝากเพื่อนๆดีกว่า



There's a hero
If you look inside your heart
You don't have to be afraid
Of what you are
There's an answer
If you reach into your soul
And the sorrow that you know
Will melt away

Chorus
And then a hero comes along
With the strength to carry on
And you cast your fears aside
And you know you can survive
So when you feel like hope is gone
Look inside you and be strong
And you'll finally see the truth
That a hero lies in you

It's a long road
When you face your world alone
No one reaches out a hand
For you to hold
You can find love
If you search within yourself
And the emptiness you felt
Will disappear

Chorus

Lord knows
Dreams are hard to follow
But don't let anyone
Tear them away
Hold on
There will be tomorrow
In time
You'll find the way





============================



และยังส่ง หลังไมค์ มาให้อีก



ขอบคณมากมากครับ










9/24/2551 11:31:00 หลังเที่ยง

ตามดู Memory Map ของสาวน้อย 7 ขวบ ป.2

เขียนโดย VARAVEE |

เพื่อให้เห็นชัดนะครับ ว่า เป็นยังไง
อันนี้ ผลงาน ของ คุณ MP นะครับ
รูปแรก

"""Map สรุปความเข้าใจเรื่อง Circle of Life จากการค้นคว้าด้วยตนเอง รายวิชาห้องสมุดค่ะเนื้อหาวิชาที่เรียนก็จะให้สมุดมาทั้งหมด 3 เล่ม ในแต่ละเล่มก็จะกำหนดหัวข้อต่างๆให้เด็กนักเรียนได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลจากหนังสือในห้องสมุด หรือจากแหล่งความรู้อื่นๆ อาจจะมาจากหนังสือพิมพ์หรือคำบอกเล่าจากผู้ใหญ่ก็ได้ แล้วนำมาเขียนสรุปเป็นเรื่องๆ เมื่อจบเล่มที่ 1 ก็จะได้รับสมุดเล่มที่ 2 และเล่มที่ 3 เป็นเล่มสุดท้ายค่ะโดยในแต่ละเล่มจะกำหนดให้เลือกค้นคว้าหัวข้อตามลำดับ เมื่อนำมาส่งอาจารย์ก็จะได้ประทับตราผ่านในแต่ละด่าน เหมือนกับการเล่นเกมส์หาสมบัติเพื่อกระตุ้นให้เด็กนักเรียนได้ค้นคว้าเพื่อจะพิชิตขุมสมบัติก่อนใครๆค่ะ...."""""""



รูปที่ 2.........

Memory map อวัยวะภายนอกและการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย



Map เรื่องอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์สรุปเนื้อหา 2 บทเรียนพร้อมทั้งโทษที่เกิดจากการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ในแต่ละชนิด ใช้ทบทวนเมื่อสอบย่อยที่ผ่านมาค่ะ

ทึ่งครับ เห็นแล้ว ทึ่งมากมาก

comment
=======
ลายเส้นและการเขียน บ่งบอกถึงความมั่นใจเต็มร้อย เลย ว่าเธอเขียน Memory Map ได้
รูปแรก Circle of life เธอสามารถสื่อคำทั้งหมดเป็นรูปภาพ ได้ในแบบของเธอ

รูปสอง เธอไม่ลังเลในการ วิ่งเข้าไปชี้ ของ Main Branch ใน Main Idea รูปนี้ ถ้าเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ จะลังเล ว่า ฉัน จะลาก Main Branch ออกจากปาก ดีไหม จากนั่นจากนี่ดีไหม


แต่เธอเชียนด้วยความมั่นใจ และ มี เหตุกำกับ ใน MainBranch








รูป 3 เธอเขียนสรุป ด้วยความเร็ว จากการอ่าน หนังสือ






ที่งมากมากครับ




โต๊ะหนังสือของสาวน้อย ชื่อว่า ปริม ลุงเดาดีกว่า เข้าใจว่า ที่เห็นแปะอยู่หน้าโต๊ะ คือ ตารางสอน แน่แน่เลย มี 7 Branch 7 สีตามวัน

ต่อด้วยนะครับของเมื่อวาน ที่เธอส่งการบ้านมา
""""""

เมื่อวานนี้เรียน สวส เรื่อง พยาธิ - โทษและการป้องกัน ตอนที่ฟังลูกเล่าให้ฟัง ก็ยังนึกๆอยู่ว่า จะวาดเจ้าตัวพยาธิออกมายังงัยพอลูกวาดเสร็จเอามาให้ดู ก็เห็นเจ้าตัวพยาธิที่ลูกวาด มีฟันยาวเชียว map รูปนี้คงจะต้องเขียนเพิ่มเติม เพราะยังขาดเรื่องของการป้องกันอื่นๆ เช่น การใส่รองเท้า และการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกแล้ว เข้าไปด้วย """"




ผลงาน 1 ปีที่เธอหัด และขอทึ่ง คุณ MP เลยครับ สุดยอดคุณแม่ จริงๆ

==============================================

งั้นตามมา ครับ ว่า 1 ปีที่แล้ว คืออะไร สงสัยไหมครับ ใครสงสัย เดี๋ยว โชว์ให้ดู
ว่า 1 ปีที่แล้วมา คืออะไร
จริงๆ แล้ว การบ้านน้องปริม ก็จะแทรก อยู่ใน บทความสอนเลขเป็นระยะระยะ

http://board.raklukefamilygroup.com/viewtopic.php?t=59125&postdays=0&postorder=asc&start=960

เช่นนี้






















====================================
เพราะฉะนั้น ตอนเริ่มถ้าเป็นแบบนี้ อย่ากังวลนะครับ

อันนี้ของเด็ก 5 ขวบ น้องนนท์ ลูกชายสุดหล่อ คุณ NK






หรือ ของ น้อง ตรัยยะ ของผม แบบเมื่อปีที่แล้ว 6 ชวบ








เริ่ม มาจาก จุดเดียวกันครับ


แต่รูป บน ที่สวยสวยน่ะ 1 ปีนะครับ


เพราะ ฉะนั้น 1-2 ปี ถ้าได้ เท่าข้างบน


ก็ ไม่น่าเกิน ป.4


ถ้าเด็กทุกคนสามารถจัดระบบความคิดได้ จากการอ่านหนังสือ หรือฟัง


ไม่ไกลครับ ความสำเร็จ


แต่อย่าพยายามข้ามขั้นครับ


ข้ามขั้นแล้ว เหนื่อยยยยยยยยยยยยยยย แล้วไปไม่ได้

เพราะฉะนั้น หัดเขียน 2 ปี ตั้งแต่เด็กๆ ที่มีเนื้อหาการเรียนน้อยๆ

พอโต เนื้อหาการเรียนเยอะเยอะ เธอ ก็จะเขียนเอง โดยไม่ต้องบังคับ

เพราะ พอเนื้อหาการเรียนเยอะๆแล้ว ต้องทั้งนั่งเขียน นั่งจำ

มันก็เลย ขอจำไปสอบก่อนดีกว่า Shortnote ที่หลัง

หัดเขียนแต่เด็กดีที่สุดครับผม

Subscribe